บทที่ 1: คำสอนคริสเตียนที่ถูกต้องควรแสดงผลดี ไม่ใช่ผลร้าย

Based on: https://reformationproject.org/case/good-vs-bad-fruit/

คำสอนที่ไม่สนับสนุนความสัมพันธ์ของเพศเดียวกันหรือไม่สนับสนุนคนข้ามเพศ เป็นปัจจัยที่ทำร้ายชีวิตชาว LGBTQ อย่างรุนแรง

• งานศึกษาของโครงการการยอมรับในครอบครัว (Family Acceptance Project) แสดงให้เห็นว่า “เลสเบี้ยน เกย์ และ ไบเซ็กชวล ในช่วงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ซึ่งถูกครอบครัวปฏิเสธอย่างมากในช่วงวัยรุ่น มีแนวโน้มจะฆ่าตัวตายมากขึ้น 8.4 เท่า มีแนวโน้มจะมีอาการซึมเศร้าอย่างรุนแรงมากขึ้น 5.9 เท่า และมีแนวโน้มจะใช้สารเสพติดที่ผิดกฎหมายมากขึ้น 3.4 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ครอบครัวยอมรับ หรือถูกปฏิเสธในระดับต่ำ”
• สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือผลร้าย เราจึงควรพิจารณาถึงที่มาของผลนี้ นั่นคือการตีความพระคัมภีร์ของเรา

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลร้าย

“พวกท่านจะรู้จักพวกเขาได้ด้วยผลของพวกเขา ผลองุ่นนั้นเก็บได้จากต้นไม้มีหนามหรือ? และผลมะเดื่อนั้นเก็บได้จากพืชหนามหรือ? ต้นไม้ดีย่อมให้แต่ผลดี ต้นไม้เลวก็ย่อมให้ผลเลว ต้นไม้ดีจะเกิดผลเลวไม่ได้ หรือต้นไม้เลวจะเกิดผลดีก็ไม่ได้ ต้นไม้ซึ่งไม่เกิดผลดีย่อมต้องถูกฟันลงและทิ้งเสียในไฟ เพราะฉะนั้น พวกท่านจะรู้จักเขาได้เพราะผลของพวกเขา”

— มัทธิว 7:16-20

คริสเตียนอาศัยประสบการณ์ชีวิตในการเปลี่ยนการตีความพระคัมภีร์ในอดีต

• คริสเตียนในยุคแรกตัดสินใจให้ชาวต่างชาติเข้าร่วมในคริสตจักรโดยไม่บังคับให้ต้องเข้าสุนัติหรือต้องปฏิบัติตามกฎในพระคัมภีร์เดิม โดยการตัดสินใจนี้มาจากประสบการณ์ของพวกเขา เปโตรกล่าวถึงผู้เชื่อต่างชาติว่า “พระเจ้าผู้ทรงทราบจิตใจมนุษย์ทรงรับรองคนต่างชาติ และประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่พวกเขาเช่นเดียวกับที่ให้แก่เรา … เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมท่านทั้งหลายจึงทดลองพระเจ้าโดยวางแอกบนคอของพวกสาวก ซึ่งเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษหรือเราเองแบกไม่ไหว” (กิจการ 15:8,10)
• ในศตวรรษที่ 19 คริสเตียนได้เปลี่ยนมุมมองการตีความพระคัมภีร์ที่สนับสนุนการค้าทาส วิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ส และคริสเตียนที่สนับสนุนการเลิกทาสหลายคนได้ยกประสบการณ์เลวร้ายที่ทาสเผชิญเพื่อโน้มน้าวให้คริสเตียนเปลี่ยนความเข้าใจในเรื่องทาส

“คุณอาจจะเลือกที่จะเมินเฉย แต่คุณจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้อีกต่อไป”

— วิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ส (พูดถึงประเด็นการค้าทาส)